เกษตรอินทรีย์หรือเกษตรเคมี
บัวเหลียว |
เส้นทางแห่งการเดินที่มั่นคงและความสำเร็จที่ยั่งยืน หากเราจะสรุปความ ,ประมวลคำพูดใหม่แทนสิ่งเก่าที่เราเคยได้ยินกันมาแบบชาชิน ให้เข้าใจในเชิงลึกอีกมุมมอง ซึ่งเราเองก็รู้กันอยู่แก่ใจแต่ว่าไม่กล้าที่จะเผยสิ่งนั้นมาพูดกันตรงๆ กับแท้ๆของคำว่า " เกษตรเคมี" กับ " เกษตรอินทรีย์ " แท้จริง..คืออะไร? แตกต่าง..กันอย่างไร? (เกษตร) เคมี: คือเกษตรที่คิดแบบเพิ่มต้นทุน เหมือนเรือน้อยที่ลอยไปไร้ทิศทาง รอวันดิ่ง การพลิกจม ,เกษตรบนกองทุกข์ เพราะทำแบบใจร้อนหรือรวบรัด อาจขาดความเข้าใจอย่างสิ้นเชิงกับคำว่า " เกษตร " คืออะไร? และที่ลึกลงไปมากกว่านั้น คือไม่เคยรู้เลย ว่า "ดิน" คืออะไร? เกษตรที่มองแต่ระยะสั้นมุ่งหวังผลการตอบ แทนที่สูงๆ โดยเข้าใจคิดเอาเอง ว่าลงทุนต่ำ ,หวังเฉพาะตัวแล้วให้ลูกหลานไปแก้ไขกันเอง ,รวมความ " เกษตรบนกองทุกข์ ," เกษตรไหลตามน้ำ " (เกษตร) อินทรีย์ : คือเกษตรของเศรษฐี เพราะมองที่การลดต้นทุน ,เกษตรที่มองการณ์ไกลไม่เร่าร้อนแห่งการแข่งขัน..แน่นอนและมั่นคงเหมือนเสาเรือนที่หนาแน่นไม่โยกคลอน การได้ผลได้แน่นอนและมากด้วยถ้าหากเดินในทางที่ถูกต้องถูกวิธีที่จะทำ เราอาจเคยได้ยินคนเก่าๆที่เล่าขานหรืออาจพบพานด้วยตัวเอง..สภาพของท้องทุ่ง ข้าวเม็ดโตเหลืองอร่าม แม้ตอนนั้นปุ๋ยเคมีซักเม็ดก็ไม่เคยใส่หรือไม่เคยได้ยินเสียด้วยซ้ำ ปูปลาสัตว์น้ำก็มากมาย จับง่ายบางทีด้วยมือเปล่านั้นก็มี ,ผลไม้ก็ดาษดื่นพวงระย้าหวานฉ่ำเย็นชื่นสนิทใจ...แต่ทำไมปัจจุบัน สิ่งเหล่านี้จึงหายไปไหน? เปรียบไปเหมือนการทำกับข้าว หากทำไม่ค่อยเป็น ,ใจร้อนทำหรือต้องการให้อร่อยแบบเร่งรัดก็แค่ไปซื้อแล้วเติมผงหรือก้อนอะไรลงไปก็จบแล้ว ทานได้แล้ว แตกต่างกับคนนึงอีกคนนึงหรืออีกกลุ่มนึง ที่คอยต้มเคี่ยวอย่างบรรจงด้วยปรานีต และผลลัพท์ที่ได้...ล้วนอร่อยสุดบรรยาย การเดินสายกลาง เกษตรกรบางรายคิดแบบนี้คือเดินไปกลางๆไม่ซ้ายหรือไม่ขวา คือผสมผสานทั้งเคมีและอินทรีย์เข้าด้วยกัน นั่นก็ถูกต้อง...แต่จริงๆก็คือเกษตรเคมีไม่แตกต่างเพียงใช้การเลี่ยงคำเท่านั้นเอง ซึ่งก็ไม่ผิดแต่อย่างใด ขอเพียงเดินอยู่ในความพอดีๆ ค่อยๆลดทุกข์ลดต้นทุนไปแล้วความสุขที่แท้จริง ได้ผลจริงไม่ยิ่งหย่อนกันหรืออาจจะมากกว่า โดยการใช้อินทรีย์ 100% ในอนาคต ยึดมั่นมีเป้าหมายอันสูงสุด...คือการรักลูกหลานและความมั่นคงอย่างถาวร ................. บัวเหลียว |